เลือกซื้อโปรแกรมขายปลีกแบบไหนดี ?
ผู้ประกอบการรายใหม่หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมต้องใช้โปรแกรมขายปลีก??? ซึ่งเหตุผลที่ใช้ในการประกอบการตัดสิน ใจใช้โปรแกรมขายปลีก ก็เพราะว่าเป็นโปรแกรมที่ใช้งานง่าย มีหน้าจอที่ทันสมัย อีกทั้งยังสามารถดูข้อมูลแบบ Real Time หรือ ดู ยอดขาย,สต็อก ณ ปัจจุบันได้ทันทีโดยไม่ต้องรอปิดกะ ทำให้สามารถส่งรายงานการขายเข้าอีเมล์ต่อผู้บริหารได้แม้ลูกค้า ไม่ได้อยู่บน Cloud แต่ก็สามารถดูรายงานแบบออนไลน์ได้ โดยไม่เก็บค่าบริการรายเดือนและรายปี ซึ่งจะทำงานได้ทั้งระบบปฏิบัติการวินโดวส์และแอนดรอยด์
ความสะดวกในการใช้โปรแกรมขายปลีก
เมื่อมีการใช้โปรแกรมฐานข้อมูลที่มีขนาดใหญ่เป็นการเพิ่มสินค้าได้ไม่จำกัดและยังเป็นการเก็บยอดซื้อยอดขายไม่จำกัด มีการสำรองข้อมูลให้อัตโนมัติที่ Drive D: ทำให้ไวรัสเข้าไปไม่ถึง อีกทั้งยังสามารถสำรองข้อมูลเองได้ทุกวันใน แฟลชไดร์ฟ อีกทั้งยังสามารถดูข้อมูลต่างๆ อย่างยอดขาย,กำไรขั้นต้นหรือสต็อกคงเหลือผ่านสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้ โดยไม่จำเป็น ต้องเดินทางไปดูที่ร้านได้ สามารถดูรายงานแบบออนไลน์ได้ทุกที่ทั่วโลก ทำให้มีความสะดวกสบายอย่างมาก รวมทั้งการใช้งานยังสามารถซัพพอร์ตทางอินเทอร์เน็ตได้เช่นกัน ทำให้สามารถแก้ปัญหาได้เร็วขึ้นไม่ต้องเดินทางไปดูที่ร้านเหมือนการใช้โปรแกรมสมัยก่อน
การเลือกซื้อโปรแกรมขายปลีก
การเลือกซื้อโปรแกรมขายปลีกหรือ ระบบ POS แท้ๆ ไม่ใช่เอาหลักโปรแกรมบัญชีมาเขียน เพราะจะเป็นการทำให้การทำงานยุ่งยากซับซ้อน แน่นอนว่ามันจะไม่สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกและสุดท้ายก็ต้องยกเลิกการใช้ไปในที่สุด เพราะเป็นการใช้โปรแกรมผิดตั้งแต่ต้น ถ้าหากคุณต้องการโปรแกรมขายปลีก ก็ควรซื้อโปรแกรมเกี่ยวกับการขายสินค้าหรือขายปลีกโดยเฉพาะ ไม่ใช่ซื้อโปรแกรมบัญชีมาทำงานขายหน้าร้าน
ข้อควรรู้เมื่อใช้งานการเลือกซื้อโปรแกรมขายปลีก
อย่าลืมดูด้วยว่าภาษาที่ใช้เขียนเป็นภาษาอะไร และที่สำคัญฐานข้อมูลที่ใช้เป็นของอะไร ถ้าเป็นฐานข้อมูลขนาดเล็กที่ไม่มีระบบบีบอัดข้อมูลซึ่งวางขายทั่วไป หากใช้ไปสักระยะเครื่องจะเริ่มช้าลงไปเรื่อยๆ และยังทำให้กินพื้นที่มาก แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือหากไฟดับ ไฟล์ข้อมูลบางส่วนจะหายไป เพราะไม่สามารถเซฟงานไว้ได้ทัน ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหามากมายตามมาเพราะข้อมูลการขายสำคัญที่สุด แนะนำให้ใช้ฐานข้อมูลซึ่งเป็นไฟล์ขนาดใหญ่สำหรับใช้งานโปรแกรมขายปลีก ที่สำคัญควรเลือกซื้อโปรแกรมขายปลีกให้ตรงกับขนาดและประเภทธุรกิจ เพราะโปรแกรมนี้มีหลายขนาด แต่ต่างกันไปตามลักษณะธุรกิจ ซึ่งในแต่ละโปรแกรมถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการไม่เหมือนกัน
การเลือกซื้อโปรแกรมขายปลีกที่ดี จะต้องมีบริหารหลังการขาย และสามารถ Online ได้ เพราะจะช่วยให้ Support ได้เร็วกว่าการเดินทางไปที่ร้าน ทำให้แก้ปัญหาได้ทันที บางที่มีการเก็บค่าบริการเป็นรายเดือนและรายปี หากเลือกซื้อโปรแกรมขายปลีกที่มีราคาแพง และโปรแกรมมีขนาดใหญ่กว่าธุรกิจมากเกินไป อาจทำให้การทำงานซับซ้อนยุ่งยาก มีหลายแผนกหลายหน่วยงานที่จะต้องทำในโปรแกรมคิดเงิน ซึ่งอาจไม่เหมาะกับธุรกิจ SME ทั่วไป ควรเลือกและวิเคราะห์ให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อเพื่อใช้งาน
